สถานการณ์ใหม่กระตุ้นโรคเก่า

: ถานการณ์โควิดที่กระตุ้นความคิดเชิงลบของโรคซึมเศร้า

เมื่อสถานการณ์โรคระบาดที่มีมายาวนานถึง 2 ปี ยังไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้นจนใช้ชีวิตได้อย่างปกติ การดำเนินชีวิตประจำวันจึงต้องระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษด้วยการเลี่ยงการพบปะ เลี่ยงการสัมผัสรวมไปถึงการรักษาระยะห่างจากผู้คน ทำให้เป็นเรื่องยากต่อการใช้ชีวิต ถ้าหากเรายังไม่ได้รับวัคซีน สิ่งที่ทำได้คือการใส่หน้ากากอนามัย และอาจจะต้องใส่ถึงสองชั้นเพื่อเพิ่มการลดอัตราเสี่ยงการรับเชื้อจากผู้อื่น

ด้วยความกังวลต่อการดำเนินชีวิตของผมเองจากสถานการณ์โควิด ทำให้เกิดการกระตุ้นอาการของโรคซึมเศร้า ที่มาในรูปแบบของอาการที่เรียกว่า negative thinking โดยไม่รู้ตัว ทำให้เครียด กังวล มีแนวคิดที่เป็นลบอยู่ในหัวเป็นหลัก ทำให้การตัดสินใจทำสิ่งต่างๆนั้นยากลำบากมาก ไม่ว่าจะเลือกทำอะไรก็จะมีความรู้สึกกังวลถึงผลที่จะตามมาในด้านร้ายตลอด และจมอยู่กับความคิดลบจนหาทางออกไม่ค่อยได้ ตัวอย่างสิ่งที่คิดคือ กลัวการใช้ชีวิตในช่วงที่มีโรคโควิด กลัวรับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว กลัวแพร่เชื้อให้คนอื่น กลัวทำชีวิตคนอื่นลำบากหรือตาย กลัวเป็นภาระ กลัวสร้างความลำบากให้ครอบครัว กลัวติดเชื้อแบบไม่รู้ตัวแล้วรักษาไม่ทันจนตาย การคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะทำให้ต่อยอดความคิดไปไกล คิดเป็นด้านลบจนทำให้เครียดและกังวลอยู่เสมอในทุกๆการคิดสิ่งต่างๆแม้จะยังไม่ได้ตัดสินใจหรือลงมือทำ นอกจากนี้ยังทำให้มีอาการหงุดหงิดง่าย และหงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำได้แค่โมโหตัวเองที่เป็นแบบนี้แล้วก็ได้แต่รอให้อาการมันหายไปเองโดยการหาอะไรทำให้ไม่ว่าง และสิ่งนั้นจะต้องไม่ทำให้หงุดหงิดเพิ่ม

การใช้ชีวิตของผมจึงดำเนินไปด้วยการใชีชีวิตอยู่แต่ในหอ ในห้องสี่เหลี่ยมและระเบียงห้องเป็นหลัก ใช้การเลือกซื้ออาหารการกินจึงต้องสั่งผ่านแอพลิเคชั่นที่เป็นบริการฟู๊ดเดลิเวอรี่เป็นส่วนมาก นอกนั้นจะทำกินเองเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ส่วนของใช้จะซื้อแค่ร้านค้าใต้หอเท่านั้น ใช้ชีวิตนอกห้องเป็นส่วนน้อย เพื่อพบปะผู้คนให้น้อยที่สุด ลงทะเบียนเพื่อรอรับวัคซีนจากภาครัฐในตัวเลือกที่มีจำกัดและใช้เวลานานมากในการรอ การเข้าสังคมที่สามารถทำได้แล้วสบายใจ มีเพียงสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่ก็มีความกังวลใจบางส่วนที่เกิดขึ้นจากการเห็นยอดติดเชื้อรายวัน ทั้งภายในจังหวัดและภายในประเทศแม้การใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากที่สุด แต่ก็ยังส่งผลเสียต่อความมั่นใจในการเข้าสังคม การเรียน และสภาพจิตใจอยู่ดี ความหวังส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดความคิดเชิงลบที่อาจจะช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น จากความคิดของผมคือการได้รับวัคซีนที่พอจะมีประสิทธิภาพต่อการป้องกันโรคระบาด แต่ด้วยตัวเลือกที่มีจำกัดทำให้ยังคงกังวลถึงผลข้างเคียงที่ มีโอกาสเกิดขึ้นกับร่างกายทำใ้ห้รู้สึกกังวล สิ่งที่จะช่วยให้รู้สึกสบายใจได้คือการเลือกที่จะปรึกษาจิตแพทย์ ถึงแม้ว่าการเดินทางเพื่อไปพบแพทย์จะรู้สึกกลัวต่อการเจอผู้คนมากมายที่ไปใช้บริการโรงพยาบาล แต่เป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้ต่อให้มีการคิดต่อยอดในการตัดสินใจเป็นเชิงลบ แต่ก็มีแนวคิดเชิงบวกมากที่สุดในการตัดสินใจ เพราะเครียดสะสมมานานเกินจนทนไม่ไหว และเก็บอาการไม่อยู่

เมื่อตัดสินใจได้และเดินทางไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการและความกังวลที่เป็นอยู่จึงได้คำตอบ ว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคซึมเศร้าที่เคยเป็นและขาดการรักษาด้วยยามานาน จึงช่วยทำให้เข้าใจ และได้ยารักษาเพื่อปรับสารเคมีในสมองในที่สุด ซึ่งต้องปรับตัวกับยาชนิดนี้ใหม่อีกครั้งจจากการเริ่มกินทีละครึ่งเม็ดใน 4 วันแรก เพื่อปรับตัวกับผลข้างเคียงของยา และเพิ่มประมาณต่อไป เมื่อได้รับการปรึกษาและรักษาจากแพทย์ ทำให้ช่วยลดความคิดเชิงลบและช่วยตัดสินใจทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น ความกังวลอาจจะลดลงได้อีกถ้าหากสถาณการณ์ของโรคระบาดดีขึ้นหรือได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพพอที่จะมั่นใจและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น

ศุภกรณ์ เหล่าถาวร 600310221