GROUPIE
groupie - a person, especially a young woman, who follows pop or rock musicians or other famous people around and tries to meet them.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเพลง ละคร สื่อบันเทิงต่างๆ รวมไปถึงวัฒนธรรมเกาหลีเข้ามามีอิทธิพลกับสังคมไทยเป็นอย่างมาก กระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดกลุ่มแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปินมากขึ้นตามลำดับ จนบางครั้งดูมากเกินไปในสายตาบุคคลทั่วไป จนทำให้ถูกสังคมเรียกว่าพวกเขา “ติ่ง”
ติ่งมีความหมายในแง่ลบและเสียดสี บ้างก็แปลว่าไส้ติ่ง สิ่งที่ไร้ประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ บ้างก็หมายความว่าติ่งหู คือพวกเด็กมัธยมที่ตัดผมสั้นเท่าติ่งหู เด็กที่ไม่มีความรู้
พวกเด็กที่ไม่มีประโยชน์ในสายตาของผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าสังคมจะเรียกกลุ่มแฟนคลับพวกนี้ว่า “ติ่ง” บรรทัดฐานของกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เข้าใจกลุ่มแฟนคลับพวกนี้มากพอ ทำให้เกิดเกิดการดูถูกเหยียดหยาม และคำพูดว่าร้าย ถึงกลุ่มแฟนคลับพวกนี้จะทำเป็นไม่สนใจคำกล่าวหาทั้งหมด และทำใจยอมรับคำที่สังคมใช้เรียกพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามพวกเราก็ไม่ได้ชอบคำที่สังคมมอบให้เราแม้แต่น้อย
สังคมกล่าวหาว่าพวกเขาว่าเป็นพวกไม่รักชาติ หมกมุ่น พวกสิ้นเปลือง พวกบ้า พวกเด็กไร้มารยาท เป็นต้น ทำไมสังคมถึงมีสิทธิตัดสินพวกเขา ซึ่งสังคมเองก็ไม่ได้พยายามที่จะทำความเข้าจะพวกเขาแม้แต่น้อย อันที่จริงการติ่งเกาหลีไม่ได้มีความผิดอะไร พวกเขาแค่ทุ่มเททุกอย่างให้กับสิ่งที่พวกเขาชอบ แต่บางครั้งอะไรที่มากเกินไปอาจทำให้พวกเขาต้องพบเจอกับคำพูดเหล่านั้น
hashtagที่โด่งดังบนsocial networkในช่วงที่ผ่านมา คงไม่พ้นhashtagที่ว่า #ติ่งเกาหลีคือคนผิดที่สุดในประเทศไทย จนหลายคนถึงกับตั้งคำถามว่า "การที่เราชื่นชอบอะไรมากๆ มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ?" การที่พวกเขาชื่นชอบเพลงหรือศิลปินเกาหลี ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ชอบนักร้องตะวันตก พวกที่ชอบการ์ตูนญี่ปุ่น พวกที่ชอบซื้อของแบนด์เนม หรือแม้กระทั่งพวกที่ชอบไปเที่ยว เรามีความชอบที่ต่างกัน แต่ทำไมพวกเขาถึงเป็นคนแค่กลุ่มเดียวที่โดนสังคมต่อต้านหล่ะ
ติ่ง ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย การติ่งเป็นการเพิ่มแรงบันดาลใจ เพิ่มกำลังใจในการใช้ชีวิตให้กับพวกเขา พวกเขาจะนำสิ่งที่พวกเขาชอบและคลั่งไคล้ไปต่อยอด ทั้งในเรื่องของการเรียนและการใช้ชีวิต โดยที่พวกเขาและคนทั่วไปไม่ทันจะสังเกตด้วยซ้ำ
————————————————————————————
PED JITSIRI - GROUPIE
เป็ดบุคคลผู้คลั่งไคล้ศิลปินทั่วทั้งเอเชีย
บทสัมภาษณ์
Q:แนะนำตัวเอง
A : ชื่อเป็ดค่ะ จิตรสิริ อินต๊ะวงศ์ อายุ 21 ปี ตอนนี้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
Q : กิจวัตรประจำวันของเป็ด ?
A : หลายคนคิดว่าคนประเภทเราจะมีกิจวัตรประจำวันที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น ที่จริงแล้วกิจวัตรประจำวันก็เหมือนคนทั่วไปแหละค่ะ มีเวลาเรียน เวลาออกกำลังกาย เวลาพักผ่อน
Q : การแบ่งเวลาและตารางชีวิต ?
A : ส่วนใหญ่จะได้ยินมาว่าพวกติ่งไม่รู้จักแบ่งเวลา ทำให้ตารางหลายๆอย่างกระทบกันไปหมด ที่จริงแล้วเราควรจะทำความเข้าใจตัวเองก่อนว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานะไหน สิ่งไหนเป็นสิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ส่วนตัวเป็ดเอง เป็ดทำ to-do-list ของแต่ละวัน แบ่งช่วงเวลาให้ชัดเจน และแข่งขันกับสิ่งที่เราได้วางไว้ นอกจากจะทำให้ไม่มีงานค้างแล้ว ยังเพิ่มเวลาพักผ่อนของเราอีกด้วย
Q : จุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นแฟนคลับ ?
A : จุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นแฟนคลับ เริ่มต้นจากซี่รี่ย์ไต้หวันก่อน F4 แต่เมื่อก่อนเราเป็นเด็กเราไม่มีความสามารถในการsupportศิลปินได้มากเท่าที่ต้องการ พอหลังๆมากระแสเกาหลีเข้ามาสร้างอิทธิพลในประเทศเรามากขึ้น เลยไม่แปลกที่เราลุ่มหลงมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น การซื้อของ ซื้ออัลบั้มต่างๆก็สะดวกมากขึ้น
Q : อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจของติ่ง ?
A : โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของคนเรา ล้วนแต่เป็นแรงบัลดาลใจ เป็นแรงผลักดันให้คนๆ นึงก้าวไปได้ไกลกว่าเดิมอยู่แล้ว แค่เรามีแรงบันดาลใจที่สามารถเห็นเป็นรูปธรรมมากกว่าคนอื่นเท่านั้น
Q : ทำไมถึงยังคงเป็นแฟนคลับอยู่จนถึงทุกวันนี้ ?
A : เป็ดคิดว่าการติ่ง เป็นการใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราชอบจะเพิ่มพลังทางด้านบวกให้เราเสมอ ฉะนั้นการอยู่กับสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เราก็จะไม่มีทางเบื่อมัน ตลอด 9 ปีที่เป็นติ่งมายังไม่เห็นผลเสียที่เกิดกับตัวเองเลย ก็ได้รับแรงบันดาลใจและกำลังใจใหม่ๆอยู่เสมอ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลให้เลิกเป็นติ่งค่ะ
ชีวิตติ่ง
Q : ทำยังไงถึงจะได้ไปเจอศิลปินที่คุณชอบ ?
A : เราก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้มาซึ่งของที่อยากได้ พวกบัตรคอนบัตรแฟนมีตคือสื่งเดียวที่จะสามารถพาเราไปเจอศิลปินที่เราชอบได้ ดังนั้นไม่ได้ด้วยแล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างหล่ะ จ้างเพื่อนมาช่วยกดบ้างหล่ะ ซื้อบัตรผีบ้าง ถึงแม้จะเสียเงินเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวก็ตาม
Q : วิธีการหาเงิน ?
A : ก็เก็บเล็กผสมน้อยเอาค่ะ ประหยัดในส่วนที่พอจะทำได้ เพราะเงินส่วนนี้ขอเบิกที่พ่อกับแม่ไม่ได้ (หัวเราะ) ถ้ามันกระทันหันจริงๆ การกู้หนี้ยืมสินจากเพื่อนก็เป็นเรื่องไม่แปลกหรอกค่ะ
Q : ของสะสม ( album / official goods / doll / etc. ) ซื้อมาแล้ว ทำยังไงกับมันต่อ ?
A : ของสะสมสำหรับแต่ละคนให้คำนิยามกับมันต่างกัน มีวิธีการเก็บรักษาที่ต่างกัน บางคนซื้อมาดพื่อใช้งาน อัลบั้มก็เอามาเปิดฟัง ของอื่นๆก็เอามาตั้งโชว์ แต่สำหรับเป็ดแล้วของสะสม พวกนี้เป็ดซื้อเพื่อความ สบายใจ ให้รู้ว่าเราก็มีแล้ว ซื้อมาก็เก็บค่ะ ไม่ได้ตั้งโชว์หรือเอามาใช้อะไรเลย กลัวมันพังเร็ว
ATTITUDE :
" ติ่งเกาหลีพวกเอาแต่ใช้ชีวิตไร้สาระ ไม่มีประโยชน์"
" เอาเวลาไปดูแลพ่อแม่ดีกว่าไหม"
" เอาเวลาติ่งเกาหลีไปตั้งใจเรียนดีกว่าไหม "
" โง่ เสียเงินให้พวกอปป้าอยู่ได้ พวกมันมาหาเลี้ยงเหรอ ไม่สงสารพ่อแม่รึไง "
" พวกบ้า พวกไร้สมอง "
" พวกเด็กไร้มารยาท ไม่รู้กาลเทศะ "
PEDTITUDE :
การทำอะไรที่มันผิดแปลกไปจากวัฒนธรรมเดิม มักจะตกเป็นเป้านิ่งให้คนอื่น
วิพากย์วิจารย์เสมอ แต่เป็ดคิดว่าการที่เราชอบศิลปินเกาหลี ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่บ้าแบรนด์เนม พวกที่คลั่งศิลปินตะวันตก หรือแม้กระทั่งพวกที่หลงใหลในการท่องเที่ยว
แต่ทำไมพวกเขาชอบสิ่งพวกนั้น แล้วถึงไม่โดนสังคมวิพากย์ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาคิดว่ากลุ่มติ่งเกาหลีแบบเราเป็นเด็ก อยากจะวิพากย์ยังไงก็ได้ เราไม่มีทางสู้อยู่แล้ว บางที่อาจเป็นแบบนั้น แต่เป็ดก็คิดอีกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ การชอบอะไรสักอย่าง เราไม่สามรถปฏิเสธได้มาเราไม่ต้องการมันมาครอบครอง ยิ่งเราชอบมากเท่าไหร่แรงต้านทานต่อสิ่งนั้นๆก็จะน้อยลงตามลำดับ ดังนั้นสังคมควรที่จะยอมรับในจุดนี้ว่าติ่งเกาหลีก็ไม่ใช่แบบที่สังคมยัดเยียดให้เสมอไป ติ่งเกาหลีก็คือคนธรรมดาที่มีความชื่นชอบในตัวศิลปินเท่านั้น เรายังทำอีกหลายอย่างที่เป็นเรื่องที่ดีต่อสังคม เพียงแต่เราไม่ได้ป่าวประกาศให้สังคมรับรู้ เช่น เป็นตัวแทนเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาสในนามของศิลปิน นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสังคม แต่สังคมปฏิเสธการรับรู้ต่อเรื่องพวกนี้ต่างหาก
(ภาพในคอนเสิร์ต SHINee World IV in BKK)
( ภาพในคอนเสิร์ต EXO PLANET #3 - The EXO'rDIUM - in BANGKOK )
Enjoy the little things in life,
because one day you will look back,
and realize they were the big things.
" ทำในสิ่งที่ชอบ ที่ตนเองต้องการ โดยไม่ต้องสนใจคำวิพากย์หรือสายตาของคนอื่น
ตราบใดที่สิ่งที่เราทำไม่ได้ไปทำร้ายใคร และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน "