top of page
รูปภาพนักเขียน.doc team

ลีซู


บ้านลีซู สันลมจอยอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นับจากปากซอยอุโมงค์หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพียง 2-3 กิโล เป็นหมู่บ้านที่ยังคงสภาพบ้านแบบชาวลีซูที่อยู่บนดอย บ้านไม้ไผ่ หลังคามุงจาก รอบ ๆ บ้านยังมีการเลี้ยงหมูดำและไก่บ้านอยู่. เมื่ออดีต สภาพแถวนี้ยังเป็นป่า ไม่มีน้ำและไฟฟ้า จนกระทั่งเมืองเริ่มขยายตัวเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้การพัฒนาในซอยอุโมงค์เป็นไปอย่างรวดเร็วในเวลา

ต่อมา.









“ เพราะที่ตรงนี้ติดป่า ถูกกับบรรยากาศที่เคยอยู่ เลยไม่ทำให้ลำบากเท่าไหร่ ยิ่งช่วงหน้าฝน มีของป่าให้กินก็ไปเก็บกินกัน อีกอย่างอยู่ใกล้เมือง สะดวกสบาย เวลาจะออกไปรับจ้างก็ออกไปแปปเดียวเท่านั้น”

(ลุงอนันต์ สีวลี)

ลุงอนันต์เป็นคนแรก ๆ ที่ย้ายมาอยู่ที่บ้านสันลมจอยตั้งแต่อายุ 20 จนตอนนี้อายุ 50 ปี เพื่อมาหางานทำในเมืองเชียงใหม่ โดยตอนแรกเข้ามาได้มาซื้อที่ดินจากคนเมือง และที่ดินในตอนนั้นราคาไม่แพงเกินไปพอที่จะซื้อได้ในขณะนั้น หลังจากตนย้ายมาอยู่แล้วก็เริ่มมีชาวลีซู ทั้งที่เป็นญาติพี่น้อง และไม่ได้เป็นบ้างเริ่มย้ายมาอยู่ตามจนเพิ่มขึ้นเป็นชุมชนเผ่าลีซูในปัจจุบัน

“ ตอนเริ่มแรกที่เข้ามาอยู่ แถวนี้ยังเป็นป่าหนาม ไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้ แต่ที่เลือกซื้อที่ดินตรงนี้คือ ที่นี่ติดกับป่า บรรยากาศเหมือนตอนอยู่บนดอยจริงๆเหมือนเราอยู่บ้าน. พอถึงหน้าฝน ก็เดินไปหาของป่ามากิน อยู่โดยไม่เดือดร้อนใคร. อีกอย่างมันใกล้เมือง สะดวกสบาย ออกไปเมืองไปรับจ้างแปปเดียวใช้เวลาไม่นาน”

ลุงอนันต์ได้เล่าอีกว่า “ อยู่แบบนี้ไม่อึดอัดหรอก ถึงจะอยู่กลางเมือง ตนมองว่ามันสบายเสียมากกว่า เพราะชาวบ้านในชุมชนเผ่าลีซูได้ทำมาหากินง่ายขึ้น ทำงานตามที่ตัวเองถนัด รับจ้างบ้าง ทำเกษตรก็ยังมีอยู่ ส่วนเด็กๆก็มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่มีอะไรที่ต้องอึดอัดเพราะเราอยู่ท่ามกลางความเป็นเมืองเลย ถือว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ตนได้มีชีวิตดีๆ ร่วมกับคนเมือง”




" ออน อายุ 21 ปี กำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ คณะวิทยาศาสตร์"

อีกหนึ่งบุคคลที่ย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชนลีซู นานเท่ากับอายุของเธอเอง เธอได้เล่าว่า เธอเกิดและโตที่นี่ โดยครอบครัวของเธอนั้นมีอาชีพ

รับสานหูกระเป๋า

"ที่บ้านรับทำหูกระเป๋าได้ 6 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนมากก็จะเป็นคนกรุงเทพ สั่งแต่ละครั้งก็ต้องทำเยอะ

เลยต้องกระจายให้ญาติๆช่วยกันทำ เป็นการกระจายรายได้ให้ครอบครัวอื่นๆด้วย"

"ก่อนครอบครัวจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เคยอยู่ ตากมาก่อน และครอบครัวก็ทำเกษตรกรมาก่อนด้วย"

" การที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเพราะการเข้ามาของสังคมเมือง แต่ทางเรายังคงสภาพไว้ เพื่อที่จะรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ "




อย่างไรก็ตาม การเป็นชุมชนใจกลางเมืองแบบหมู่บ้านชนเผ่าลีซูนั้น ไม่เป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา แม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ความวุ่นวายของเมืองที่แผ่ขยายเข้าสู่พื้นที่ของชุมชนเผ่าลีซู ก็ไม่ทำให้พวกเขาอึดอัด เพียงแค่เหตุผลเพราะว่า การมีกินมีใช้ มีอาชีพ มีรายได้ มีที่ให้ลูกหลานได้เรียนได้ศึกษา มีที่พักอาศัย ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของพวกเขาแล้ว.

ดู 25 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page