top of page
รูปภาพนักเขียน.doc team

เชียร์ดอก



หากมีโอกาสได้มาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมที่จะไปตามสถานที่ต่างๆตามในตัวเมืองเชียงใหม่ เช่นเดียวกับ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณตีนดอยสุเทพถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของถนนขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งอนุสาวรีย์ถูกสร้างขึ้นจากการที่หลวงศรีประกาศและชาวเชียงใหม่ร่วมกันบริจาคเงินสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงครูบาเจ้าศรีวิชัยในช่วงปี พ.ศ. 2507 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประชาชนที่มีความเลื่อมใส ศรัทธาก็ได้เดินทางมาศักการะขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นวันธรรดาหรือวันหยุดก็ตาม

ตรงข้ามอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยนั้น จะสังเกตเห็นร้านขายดอกไม้ ธูป เทียน ที่นำไปศักการะ เป็นห้องแถวเรียงยาว ถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆสิบห้อง โดยมีเพียงกำแพงบางๆกั้นห้องออกจากกัน แต่ละห้องจะมีหมายเลขเรียงห้องเขียนติดเอาไว้หน้าร้าน แม่ค้าแต่ละร้านกำมัดดอกบัวไว้ในมือ พร้อมใจกันส่งเสียงเรียกลูกค้าเข้าร้าน เป็นเทคนิคการเรียกลูกค้าที่ไม่เหมือนที่อื่น เรียกกันว่า "การเชียร์ดอก" จากการสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปของร้านแล้ว พบว่าเดิมนั้นร้านขายดอกไม้เริ่มขายบริเวณด้านข้างอนุสาวรีย์ ต่อมาเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ให้ร้านขายดอกไม้เป็นห้องแถวยาวเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ธุรกิจนี้เริ่มมาตั้งแต่มีอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ปัจจุบันได้มีการสืบต่อธุรกิจนี้มาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน บางร้านมีการจ้างลูกจ้าง ซึ่งหนึ่งในจำนวนสิบร้านนี้ มีเหลือเพียงร้านเดียวที่ขายมาตั้งแต่เริ่มแรกมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ ร้านเบอร์ 10 ร้านแม่อุ๊ยเป็ง


_DSC0168

หญิงชราวัย 73 ปี ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับลูกค้าและผู้คนที่ผ่านไปมาเสมอ แม่อุ๊ยเป็งยึดอาชีพขายดอกไม้อยู่ที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยแห่งนี่มานานมากกว่า 30 ปีแล้ว ก่อนจะมายึดอาชีพขายดอกไม้แม่อุ๊ยเป็งและสามีประกอบอาชีพขับรถสองแถวแแดงมาก่อน แต่ลูกๆบอกให้ลองเปลี่ยนอาชีพที่งานเบากว่า ประกอบกับช่วงเวลานั้นที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีบาวิชัยยังมีร้านขายดอกไม้ไม่มากนัก การเปลี่ยนอาชีพครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี กลายเป็นแหล่งรายได้หลักในการเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกทั้งสองคนเรียนจนจบปริญญาโท และปัจจุบันแม่อุ๊ยเป็งยังคงมาขายดอกไม้ด้วยตัวเองทุกๆวัน


ถาม : คุณยายขายดอกไม้มานานเท่าไหร่แล้ว?

ตอบ : เมื่อก่อนยายขายมาตั้งแต่เขายังไม่พัฒนาอนุสาวรีย์ให้ดูดีเท่านี้ ตอนนั้นขายอยู่ข้างๆอนุสาวรีย์ ยายขายชุดละ 3 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคาของมันแพงขึ้นอะไรก็แพงขึ้นยายเลยต้องขายชุดละ 20 บาท สมัยก่อนคนมาเที่ยวกันเยอะนะ ขายดีมากดอกไม้หมดทุกวัน

ถาม : สมัยก่อนกับปัจจุบันนี้มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง?

ตอบ : เมื่อก่อนคนเขามาไหว้กันเยอะ เขาก็มาซื้อดอกไม้จากยายนี่แหละ แต่เดี๋ยวนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เริ่มมีของแก้บนมาขายมากขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้า พวกช้างคู่ม้าคู่ คนนิยมซื้อกันนำไปแก้บนท่าน บางคนเขาก็บนไข่ต้มกันแก้ทีเป็นร้อยๆฟอง ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนคนเดี๋ยวนี้ยังน้อยกว่าเยอะ

ถาม : มีการสร้างห้องแถวขึ้นตอนไหนคะ เขาเลือกร้านที่จะมาขายตรงนี้ยังไง?

ตอบ : ช่วงสิบปีหลังมานี้ เทศบาลเขามาสร้างให้ เหมือนจัดระเบียบร้านไปด้วย เมื่อก่อนไม่มีที่ขายเป็นหลักแหล่ง ขายกันแถวข้างๆอนุสาวรีย์ ตอนนั้นก็มีร้านขายประมาณสิบกว่าร้านนี่แหละ เลยสร้างห้องแถวขึ้นมาสิบห้อง ถ้าใครอยากขายเพิ่มอีกก็ไม่ได้แล้วนะเขาจำกัดให้เท่านี้

ถาม : คุณยายต้องเสียค่าเช่าที่ขายตรงนี้ไหม?

ตอบ : ไม่เสียหรอกลูก เสียแต่ค่าน้ำค่าไฟ บางเดือนเขาก็มาเก็บค่าบำรุงสถานที่บ้างแต่ไม่ใช่ทุกเดือนนะ

ถาม : คุณยายคิดว่าจะทำอาชีพนี้ไปอีกนานไหม?

ตอบ : ยายคงขายต่อไปเรื่อยๆเท่าที่จะมาขายได้ แก่แล้วอยู่บ้านเฉยๆก็เบื่อ ออกมาขายดอกไม้สนุกกว่า ในอนาตคก็อยากให้ลูกหลานสืบทอดกิจการนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ถึงแม้ว่าการขายดอกไม้จะเป็นธุจกิจเล็กๆ ที่รายได้ต่อวันอาจจะไม่มาก แต่ก็สามารถสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว ถ้าหากมีความตั้งใจในการทำงานและรักในงานที่ทำไม่ว่าจะประกอบอาชีพไหนก็สามารถประสบความสำเร็จได้


ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

KAREN

บุญ?

bottom of page