หมากรุกเป็นเกมส์หมากกระดานชนิดนึงที่มีประวัติมายาวนาน ต้องใช้เทคนิคและการวางแผนในการเล่นเป็นอย่างสูง และสถานที่ที่รวมเหล่าเซียนหมากรุกเราเรียกว่า “ซุ้มหมากรุก”
ซุ้มหมากรุกในจังหวัดเชียงใหม่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักจะมี 2 แห่งคือ ซุ้มพันทิพย์พลาซ่า และซุ้มสนามกีฬานครเชียงใหม่ ความแตกต่างระหว่างสองซุ้มนี้คือ ซุ้มสนามกีฬาฯจะเป็นชมรม เปิดเสรีให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาเล่นได้ ด้วยความที่เป็นซุ้มเปิดเสรีดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นจึงอาจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไม่มีกระดานหมาก ใช้ตารางจากโต๊ะหินอ่อนในการเล่น แต่ก็ยังมีเซียนที่มาเล่นซุ้มนี้เป็นประจำอยู่หลายคน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือครูอาร์ท
นายธีระพงษ์ นิ่มอนันต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อครูอาร์ท อายุ 75 ปี เริ่มเล่นหมากรุกมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ดั้งเดิมครูอาร์ทเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่กรุงเทพฯ เพิ่งจะเริ่มจริงจังกับหมากรุกตอนย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งก็เกือบจะ 20 ปีแล้ว เริ่มแรกเป็นครูช่วยซ้อมที่ซุ้มไอคอนสแควร์จากนั้นย้ายไปที่ซุ้มพันทิพย์ และสุดท้ายมาที่ซุ้มสนามกีฬานครเชียงใหม่ ครูอาร์ทจะมาที่ซุ้มอย่างน้อยสัปดาห์ละสามครั้ง เดินทางด้วยวิธีปั่นจักรยาน โดยระยะทางจากบ้านมาซุ้มสนามกีฬาฯประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งโดยปกติจะมาที่ซุ้มตั้งแต่เที่ยงและกลับบ้านประมาณ 4 - 5 โมงเย็น ครูอาร์ทเคยแข่งหลายรายการและได้รับรางวัลมามากมาย แต่ในตอนนี้ครูได้เลิกแข่งและหันไปเป็นโค้ชให้เด็กๆแทน
น้องฮิล เด็กนักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ เป็นลูกศิษย์คนล่าสุดของครูอาร์ท พ่อแม่ของน้องจะมาส่งที่ซุ้มสนามกีฬาฯสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเพื่อเรียนกับครูอาร์ท ซึ่งน้องฮิลสามารถเล่นได้ทั้งหมากฮอส หมากรุกไทย และหมากรุกสากล แต่สิ่งที่ถนัดที่สุดคือหมากรุกสากลเพราะเคยไปแข่งได้ที่ 3 ของจังหวัดเชียงใหม่ แต่ช่วงนี้กำลังเรียนหมากฮอสกับครูอาร์ท
ผมได้สอบถามเกี่ยวกับหมากรุกไทยในปัจจุบันกับครูอาร์ท และได้คำตอบว่า “เมื่อก่อนคนนิยมกว่านี้ มันมีรายการแข่งขันเยอะ พอมีการแข่งขันคนก็อยากเล่น เด็กก็อยากเล่น แต่สองสามปีมานี้ไม่ค่อยมีการแข่งเลย เขาเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รัฐบาลชุดนี้เขาไม่ค่อยสนใจหมากรุก ไม่สร้างรายการแข่งขัน คนก็ไม่ค่อยนิยมเล่นกัน”
ผมได้แค่หวังเล็กๆว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราตอนนี้จะหันกลับมามองและให้การสนับสนุนหมากรุกไทยเหมือนแต่ก่อน เพื่อให้หมากรุกไทยกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง