นาฬิกาเดินตามเข็ม ชั่วโมง นาที วินาที เป็นปกติของธรรมชาติ มาจนถึงปัจจุบันพาเรามาถึง ค.ศ.2019 แต่หากใครลองสังเกตุบริบทรอบตัวในช่วงให้หลังมานี้ อาจเกิดความรู้สึกได้ว่า โลกกำลังเดินไปไวกว่าเวลาที่เป็นอยู่อย่างรวดเร็ว ความรวดเร็วนี้แน่นอนว่าเกิดจากพลังของมวลมนุษย์เป็นฟันเฟืองหลักในช่วงยุคหลัง ซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ย่อมทิ้งร่องรอยของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไว้ให้ได้ถวิลหา ราวกับว่าสิ่งต่างๆรอบตัวที่เกิดขึ้น ได้กลายเป็นอดีตไปแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว อาจมองย้อนกลับไปแล้วให้ความรู้สึกที่เกิดรอยยิ้ม ก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ให้ความทรงจำในช่วงนั้นมาแบบไหน ที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ อยากชวนตั้งคำถามให้กับตัวเองก่อนว่า จริงหรือไม่ถ้าการติดต่อหาใครสักคนหนึ่งมันยาก เราจะมีความสุขมากๆ ถ้าได้ยินเสียงของคนๆนั้นตอบรับกลับมา แน่นอนว่าการติดต่อสื่อสารแบบนี้คงจะไม่ใช่ส่งจดหมายหรือเพจหากัน แต่มันจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก “โทรศัพท์” กล่องที่มีสายยาว
และมีเสียงออกมาจากข้างใน มันคงจะเป็นกล่องที่ธรรมดามาก ถ้าเสียงที่ออกมาไม่ใช่เสียงของคนที่เราคิดถึง เปรียบกับว่ากล่องนี้มีเวทมนต์จากสวรรค์ ให้ได้ยินเสียงใครสักคน โดยไม่ต้องรอ ไม่ต้องไปถึงที่ ยืนอยู่ตรงนี้เราได้ยินกันและกัน เป็นความโรแมนติกอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคู่รักหรืออะไรก็ตาม แต่นี่คือความโรแมนติกในตัวของมัน แต่ก็ใช่ว่าจะหากล่องวิเศษนี้ได้ง่าย แน่นอนว่าอะไรที่พิเศษย่อมหาได้ยาก และต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงพอ ถ้าหากคุณต้องการ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์มีตาร่ายมนต์ลงมาให้โลกมนุษย์โดยการส่งตู้สี่เหลี่ยมกระจายอยู่ทั่วเมือง ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา ไม่ต้องไปตามหา เพราะมันได้มาหาคุณที่หน้าบ้านแล้ว และชื่อเรียกของมันคือ “ตู้โทรศัพท์สาธารณะ” ขนาดพอๆกับตู้เสื้อผ้า ราวกับห้องเล็กหนึ่งห้องที่สามารถดลบันดานความเป็นส่วนตัวพอสำหรับการจะคุยกับใครสักคนหนึ่ง ของขวัญจากสวรรค์นี้เหมือนมาตามคำอวยพรขอของมนุษย์อย่างแท้จริง
สำหรับคนที่เกิดในช่วงทศวรรษที่90 หรือก่อนหน้านั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จักตู้โทรศัพท์สาธารณะ ความทรงจำในช่วงหนึ่งของการติดต่อสื่อสาร สำหรับตู้โทรศัพท์สาธารณะ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2522 โดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นำโทรศัพท์แบบหยอดเหรียญเข้ามาติดตั้งในเขตโทรศัพท์นครหลวงจำนวน 100 เครื่อง ก่อนเจริญก้าวหน้าต่อยอดเพิ่มจำนวนมากกว่าสองแสนตู้ทั่วประเทศดังเช่นทุกวันนี้ แต่ในปัจจุบันนี้ โทรศัพท์สาธารณะทั่วประเทศเหลืออยู่ทั้งหมดประมาณ 180,000 เครื่อง
ในอดีตต้องยอมรับว่าตู้โทรศัพท์สาธารณะได้รับความนิยมอย่างมาก สร้างกำไรต่อตู้ได้ถึง 3-4 พันบาทต่อตู้ ในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว หากยังจำกันได้จะเห็นภาพบรรยากาศคนต่อแถวรอใช้ตู้โทรศัพท์ บ้างก็โทรจีบกัน บ้างก็โทรหาพ่อแม่ บ้างก็โทรไปขอเพลงตามคลื่นวิทยุ ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกตู้ในมุมไหน ให้สอดคล้องกับอารมณ์ของผู้ใช้ในเวลานั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นตู้ที่สร้างความอุ่นใจได้อีกด้วย เพราะเมื่อรู้สึกหลงทาง หรือนัดกันคลาดเคลื่อนเมื่อไหร่ ถ้าเอามือล้วงกระเป๋าแล้วไม่มีโทรศัพท์ ก็แก้ปัญหาง่ายๆได้ด้วยการวิ่งเข้าไปในตู้โทรศัพท์ไหนสักตู้หนึ่งได้เลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะจะเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามในช่วงเวลานั้น แต่ในปัจจุบันตู้โทรศัพท์สาธารณะกลับมีรายได้เฉลี่ยเพียงแค่สัปดาห์ละ 100 บาท ผู้ใช้งานน้อยลงไปมาก ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรือโรงเรียนตามชุมชนต่างๆ ในส่วนที่เหลือส่วนมากนั้นถูกปล่อยให้รกร้าง ใช้งานไม่ได้ เป็นแค่กล่องสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ตามมุมต่างๆของเมือง
ปัจจุบันมีตู้โทรศัพท์สาธารณะจำนวนมากที่ไม่ได้รับให้ติดตั้งตามประกาศ พ.ศ.2546 เป็นลักษณะของตู้โทรศัพท์ผิดกฎหมาย เนื่องจาก กีดขวางทางจราจร ติดตั้งบนทางเท้าแคบๆ ติดตั้งชิดกับป้ายรถประจำทาง หรือมีการติดตั้งป้ายโฆษณา ในบางตู้ก็เป็นตู้สัมภาระของพ่อค้าแม่ค้า มากไปกว่านั้นยังเป็นที่พักพิงและมั่วสุมขอวัยรุ่นอีกด้วย
ซึ่งปัญหานี้ก็ได้มีการรื้อถอนตู้ที่ผิดลักษณะออกไป แต่ก็ยังเหลือตู้ที่เป็นไปในลักษณะนี้อยู่ตามมุมต่างๆไม่น้อย มองดูแล้วตู้โทรศัพท์ในปัจจุบันนี้กลับลายจะเป็นปัญหามากกว่าประโยชน์หรือไม่อย่างไร ภาครัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องควรที่จะเริ่มให้ความสนใจอย่างจริงจังในเรื่องนี้ได้หรือยัง คำถามเกิดขึ้นว่ามันยังเป็นอยู่จริงๆหรือ บางตู้เหลือแค่ตู้ไม่มีโทรศัพท์มาแรมปี
ในส่วนนี้ควรจะพัฒนาอย่างไร ควรมีมาตรการรื้อถอนตู้โทรศัพท์สาธารณะออกไปหรือไม่ หรือควรจะพัฒนาตู้โทรศัพท์ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง โดยปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานยุคปัจจุบัน ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับผังเมืองในปัจจุบัน หรือปรับเปลี่ยนให้ตรงกับลักษณะของการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศ ต้องอย่าลืมไปด้วยว่าไม่ใช่ประชาชนทุกคนที่จะมีโทรศัพท์ใช้ หากจัดสรรงบประมาณมาดูแลในเรื่องนี้และสามารถพัฒนาได้ เชื่อว่าตู้โทรศัพท์สาธารณะต้องกลับมาตอบโจทย์อีกครั้งอย่างแน่นอน
ได้แต่ภาวนาว่าสักวันความทรงจำที่สวยงามในอดีต จะหวนกลับมาเป็นความจริงอีกครั้ง...