‘’ความเคยชิน’’ ต่อสิ่งต่างๆรอบตัวบางครั้งก็ทำให้เรามองข้ามหลายๆสิ่งที่มันควรจะถูกพูดถึงหรือควรที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้น เเต่ในทางตรงกันข้ามเรากลับมองไม่เห็นหรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้นมากเท่าที่มันควรจะเป็น สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องที่ราวกับธรรมชาติได้จงใจสร้างมันขึ้น ความเคยชินต่อการรุกล้ำในพื้นที่สาสาธารณะ ทางเดินเท้าที่มีไว้สำหรับเดินถูกเเทนที่ด้วยป้ายโฆษณาหรือร้านค้าต่างๆ ความเคยชินต่อการสัญจรบนท้องถนนที่ชำรุดทรุดโทรม บางเส้นทางควรได้รับการเเก้ไขโดยเร่งด่วนเเต่ทุกคนในพื้นที่กลับเมินเชยด้วยการหลบหลีกเเละผ่านมันไป ‘’ราวกับเป็นเรื่องปกติ’’ ปัญหาเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราจนหลายคนไม่ได้มองว่าสิ่งเหล่านี้คือ ‘’ปัญหา’’
ในจังหวัดเชียงใหม่เราจะพบเจอปัญหาเหล่านี้ได้ในหลายๆพื้นที่ราวกับเป็นเรื่องปกติ ร้านค้าเเผงลอยบนทางเดินเท้าพบเจอได้อย่างไม่สะดุดตาในเขตของชุมชน มีบ้างในใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจ การค้าขาย (ในพื้นที่สาธารณะ) เพื่อปากท้องของตนเเละครอบครัว บางทีทุกคนก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ‘’เพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้’’ จนอาจจะลืมสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งไปด้วยนั่นคือ ‘’ความรับผิดต่อสาธารณะ’’ ในเมื่อผู้ประกอบอาชีพตั้งใจลืมสิ่งที่สำคัญสิ่งนี้หรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ตามมานั่นคือปัญหาต่างๆ ทางเท้าที่มีไว้สำหรับเดินกลับใช้เพื่อตั้งร้านค้าหรือมีไว้สำหรับตั้งป้ายโฆษณาต่างๆ คำถามต่อมาก็คือเเล้วเราสามารถเดินตรงไหนได้บ้าง ในเมื่อทางเท้าไม่สามารถเดินได้เเล้ว ตัวเลือกที่ดีสุดก็คงจะหนีไม่พ้นบนท้องถนน เราต้องหลบทางให้กับร้านค้าเเละป้ายโฆษณาที่กีดขวางทางเดิน ท้องถนนที่มีรถสัญจรอยู่ตลอดเวลาจึงไม่ปลอดภัยมากนักสำหรับการเดิน ซึ่งอาจจะเกิดอีกหลายๆปัญหาตามมา อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างรถที่สัญจรเเละคนที่เดินบนท้องถนน ปัญหาเหล่านี้เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวันเเละผู้คนส่วนใหญ่กลับโทษว่าเป็นความผิดของคนที่เดินบนถนน ซึ่งนั่นก็ถูกในส่วนหนึ่งเท่านั้นถนนไม่ทางเดิน เเต่ไม่ได้ถูกไปเสียทั้งหมด ‘’ในเมื่อไม่มีทางเท้าให้เดินเเล้วจะให้ไปเดินที่ไหนหล่ะ’’ จึงต้องมองย้อนกลับมาที่ต้นเหตุนั่นก็คือ ร้านค้าที่ตั้งบนทางเท้า ทำไมร้านค้าหรือป้ายโฆษณาถึงสามารถเข้ามาระเมิดความเป็นสาธารณะได้มากขนาดนี้ บางพื้นที่เป็นส่วนของภาครัฐที่เป็นฝ่ายจัดการพื้นที่โดยเรียกเก็บค่าเช่า จึงเกิดเกิดการตั้งคำถามอีกว่า ทำไมภาครัฐจึงมีสิทธิเรียกเก็บค่าเช่าทั้งๆที่มันเป็นพื้นที่สาธารณะ นั่นอาจจะเชื่อมโยงกับเรื่องผลประโยชน์ที่ภาครัฐเอาเปรียบประชาชน
ทั้งปัญหาทางเดินเท้าเเละยังรวมไปถึงเรื่องของปัญหาท้องถนนที่มีความชำรุดทรุดโทรม โดยไม่ได้รับการดูเเลจากภาครัฐเท่าที่ควรมีการร้องเรียนจากประชาชนหลายต่อหลายครั้งเเต่ภาครัฐกลับเมินเชยต่อปัญหา จึงเกิดการตั้งคำถามขึ้นมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาครัฐ ทำไมประชาชนถึงไม่ได้รับการดูเเลเท่าที่ควร ทำไมถึงเกิดการเอารัดเอาเปรียบกับประชาชนเกิดขึ้น คำถามที่ทุกคนอาจจะรู้คำตอบดีอยู่เเล้ว การเมินเชยต่อเรื่องต่างๆทั้งรัฐเเละประชาชนจึงนำไปสู่ความเคยชินที่มีต่อทุกสิ่งรอบตัวเรา การขาดความรับผิดชอบต่อสาธารณะนำไปสู่ความเห็นเเก่ตัว เเละปัญหาทั้งหมดนี้ยังคงเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราโดยที่เราไม่เคยรู้เลยว่ามันคือปัญหา นั่นเป็นเพราะความเคยชินต่อเรื่องทั้งหมด ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
วีรภัทร จินกระวี 580310055
Comments