ถ้าเรานึกถึง เมืองเชียงใหม่ สิ่งแรกๆที่หลายๆคนนึกออกก็มักจะนึกถึง เมืองแห่งมรดก ศิลปวัฒนธรรม เมืองแห่งการท่องเที่ยว ซึ่งก็ไม่แปลกที่มีคนจะคิดแบบนั้นเพราะว่า เมืองเชียงใหม่นั้นเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์อันล้้าค่า และงานสถาปัตยกรรม โบราณสถานเก่าแก่มากมาย รวมไปถึงวัดและแหล่งศาสนสถานต่างๆ ซึ่งท้าให้ดึงดูดผู้คนมากมายจะทั่วทุกมุมโลกมาเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ แห่งดินแดนอาณาจักรล้านนาแห่งนี้ ซึ่งก็ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ส้าคัญอันดันต้นๆของประเทศไทยเรา แต่ถ้าเรากลับมามองเมืองเชียงใหม่ดีๆ เรากลับเห็นได้ว่าแหล่งโบราณสถานหลายๆแห่ง ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เสื่อมโทรมและขาดการดูแลซึ่งขัดกับค้าว่า เมืองแห่งมรดก ที่ถูกกล่าวไว้
เมื่อเราย้อนกลับไปดูที่มาของเมืองเชียงใหม่ในอดีตตั้งแต่ยังเป็นอาณาจักรล้านนาที่ สถาปนาโดยพญามังราย นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 1839 แต่หนึ่งในสาเหตุที่ท้าให้เมืองเชียงใหม่เต็มไปด้วยวัดมากมายนั้นเริ่มในรัชสมัยพญาติโลกราช พระองค์ทรงเลื่อมใสท้านุบ้ารุงพุทธศาสนาอย่างยิ่ง พุทธศาสนาจึงมีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงเวลานั้น ท้าให้พระสงฆ์ในสมัยนั้นจึงมีความรู้สูงและปรากฏมีชื่อเสียงมากมาย พร้อมกับประชาชนก็มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาจึงได้มีการสร้างปริมาณวัดที่มากมายในยุครุ่งเรืองนั้นมีร่องรอยปรากฏเป็นวัดร้างมากมายในปัจจุบัน แสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาในอดีต จ้านวนวัดในอ้าเภอเมืองเชียงใหม่มีมากถึง 121 วัด ทั้งนี้ในเขตเมืองเชียงใหม่ ต.ศรีภูมิ ต.พระสิงห์ รวมกันมีเกือบ 45 วัดเก่าแก่ นี่ยังไม่ได้นับจ้านวนเจดีย์และโบราณสถานที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ซึ่งถ้าอ้างอิงข้อมูลจากรายชื่อโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรในจังหวัดเชียงใหม่มีมากถึง 256 แห่ง แต่ว่าเกินกว่าครึ่งไม่ได้ถูกอนุรักษ์และปกป้องตามที่ควรจะเป็น หลายแห่งถูกรุกล้้าโดยอาคารพักอาศัยของชาวบ้าน จึงเกิดทัศนียภาพที่ไม่น่ามอง เพราะมีชุมชนอาคารบ้านเรือนเบียดชิดโบราณสถาน ท้าให้คนเชียงใหม่คุ้นชินกับทัศนียภาพที่เห็นราวตากผ้าของชาวบ้านมาวางอยู่เคียงข้างเจดีย์โบราณหรือไม่ก็มีการน้าขยะสิ่งของที่ช้ารุดมาวางทั่วเจดีย์ สาเหตุหนึ่งก็มาจากขาดแคลนเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างครอบคลุม ไม่สามารถดูแลพื้นที่แวดล้อมโบราณสถานได้ทั่วถึง ส่งผลให้มรดกทางประวัติศาสตร์ หรือคุณค่าทางประวัติศาสตร์นั้นก้าลังถูกท้าลายไปตามกาลเวลา ซึ่งส่วนหนึ่งที่ท้าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็เพราะว่าประชาชนหรือชาวบ้านมองไม่เห็นคุณค่าของโบราณสถานเหล่านี้ และเป็นตัวการหนึ่งในการท้าลายโบราณสถานนั้นๆ ไปเสียเอง เนื่องจากว่าในบางแห่งก็มีการน้าร้านขายของไปตั้งร้านขายบ้าง กลายเป็นที่จอดรถบ้าง หรือแม้กระทั่งเป็นที่ทิ้งขยะก็มี ประวัติศาสตร์เมืองก็ยังถูกบุกรุกท้าลาย และยังสะท้อนปัญหาการจัดการผังเมือง ทับซ้อนกับพื้นที่ประ วัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน ผมจึงมีความคิดว่า เราก้าลังจะลืมอดีตอันทรงคุณค่าของเมืองเชียงใหม่ของเราไปและไม่ได้ให้ความส้าคัญกับเมืองประวัติศาสตร์ของเรา
ในเมื่อเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วม 723 ปี เมืองที่มีงบบริหารจัดการพัฒนาเมืองมหาศาล มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวสูง แล้วยังมีแผนที่จะผลักดันให้ได้รับการพิจารณาเป็นเมืองมรดกโลก แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่ได้ให้ความส้าคัญกับมรดกของเมืองเชียงใหม่เลย ถ้าเราไม่ปกป้อง ดูแลรักษามรดกอันทรงคุณค่าเอาไว้ ศิลปวัฒนธรรมและแหล่งประวัติศาสตร์อันล้้าค่าก็ก้าลังจะถูกลืมและสูญหายไปตามกลาเวลาไปในที่สุด
ยุทธนา จันทร์เครือ 590310087
Comentarios